ห้องที่ ๑๓๖ : ขุนวินิจจัย


           สุครีพพิเภกน้อมอนุชจักร กฤษณเฮย
รับสั่งมาที่ภัก รีบพร้อง
พานรราพคุมนัก โทษสู่ นครแฮ
ลงโทษตามสั่งน้อง นารถไท้ไวยกูล
           ตำรวจองครักษทั้ง จักรนา รายน์ฤๅ
ต่างรับคำนายมา เร่งเร้า
จัดโซ่รขื่อมือคา จำครบ มารแฮ
นำนักโทษสองเข้า เฃตรแคว้นลงกา
           นายชมองตีฆ้องกระ แตนำ หน้าเอย
อสุรโศกตรากตรำ หม่นไหม้
ยอกเจบทั่วกายลำ บากยาตร เยื้องนา
บ้างเคาะบ้างเตือนให้ ราพร้องผจานตัว
           ทศพิณกับพี่เลี้ยง สุดทน เจบนอ
ร้องร่ำผจานตน แพร่หล้า
ตามแถวถิ่นถนน รอบนัค เรศเฮย
ใครอย่าดูเยี่ยงข้า ขบถท้าวอวตาร
           นำทัพจักรวรรดิเจ้า มลิวัน มานา
รุกรบลงกาพลัน พ่ายแล้ว
จับพิเภกจำพัน ธนาตรุ ขังแฮ
ขำทนงศักดิ์แกล้ว กลับขึ้นเถลิงเวียง
           ชายหญิงยักษทั่วพื้น ธานี
ยลตระเวรกรูกรี เกริกใกล้
ต่างรีบสับสนลี ลาศแน่น ถนนแฮ
ที่รักเลงห่อนได้ เหตุด้วยสงสาร
           ที่ชังยิ่งทับถ้อย แถมถม
สาแก่ใจมันสม คบร้าย
จะภาพวกเราจม เจียนมอด หมดนา
หากอนุชนรายน์ผ้าย จึ่งพ้นมรณา
          ทศพิณลำบากช้ำ อินทรีย์
กองตระเวรเตือนลี ลาศเร้า
บงปราสาทชนนี ราพสุด ถวิลนา
พลางทอดหฤไทยเศ้รา นบแล้วรำพรรณ
           ชนนิศรบังเกิดเกล้า ลูกยา
ผดุงลูกแตเยาว์มา ใหญ่แล้ว
ไป่ทุกข์ไปอนา ทรสัก น่อยนอ
มีแต่ศุขสวัสดิแผ้ว ผ่องพ้นราคี
           พระคุณพระยิ่งพื้น ธาตรี
ยิ่งสุเมรุคิรี ยิ่งฟ้า
บ่แทนทดบทศรี สนองพระ คุณเอย
จรจากบาทจากหล้า อนาถแล้วมารดร
           อยู่หลังจะร่ำไห้ โหยหา
แสนทุกข์ทับอุรา เร่าร้อน
จักเทวศถวิลอา ไลยลูก นักนอ
จะโศกรทมสท้อน ทุกแท้ทิวาวัน
           บุญน้อยมิได้อยู่ ฉลองบาท แล้วเอย
ชีพิตรลูกจักฃาด บ่ช้า
เดือนดับลับเมรุมาศ เหมือนลูก ลับฤๅ
ไหนลูกจักเหนหน้า แม่ผู้เกิดเศียร
           ถึงกระไรได้พบ ชนนี
ภอนบบาทบทศรี สักน้อย
จะตายก็ตามที สุดแต่ เวรนา
พลางร่ำโศกลห้อย ทุเรศเต้ารัฐยางค์
           ตระเวรรอบด้าวรีบ นำยักษ สองเอย
สู่ที่มัดกับหลัก แหล่งแล้ว
เพชฌฆาฎย่างฟันนัก โทษขาด เศียรแฮ
จึ่งเสียบประจานแพ้ว อยู่ฃ้างทวารเวียง
          มณโฑทราบบุตรม้วย ชีวา แล้วเอย
รันทดหฤไทยอา ดุรดิ้น
แสนสลดถั่งชลนา นองภักตร พธุนอ
กำสรดเพียงจักสิ้น ชีพไห้โหยครวญ
           ทศพิณโอรสผู้ เฉลิมขวัญ แม่เอย
ยอดรักษมาอาสัญ ฃาดเกล้า
แม่อุส่าห์ประคองครรภ์ ผดุงลูก ใหญ่นอ
ถนอมแนบสวาทศเจ้า ชื่นหน้าชนนี
           ทอดทิ้งแต่แม่ไว้ เดียวดาย
พูลพิโยคยังแต่กาย เปลี่ยวร้าง
แสนโศกยิ่งถวิลสาย สวาศแม่ นักแม่
แท้ว่ากรรมก่อนสร้าง ซัดให้ทันเหน
           เลศนี้แม่พร่ำห้าม บ่ฟัง คำแม่
ทนงศักดิโดยโอหัง ฮึกห้าว
เชื่ออ้ายพี่เลี้ยงรัง กลก่อ ศึกแฮ
เศียรจึ่งตกดินด้าว เสียบไม้ปักประจาน
           เสียแรงกำเนิดเชื้อ พรหมมาน
สรวงเทพยสถิตยสฐาน ทั่วซร้อง
อีกเทพยทุกจักรพาฬ เกรงเดช หนักนอ
ลูกดับดังใช่พ้อง เพศพื้นพรหมปรยูร
           อินทรชิตเชษฐเจ้า ยุทธนา
ชีพปลดมีผู้มา รับเกล้า
บ่ตกจากเวหา เหนประ จักษแฮ
เศียรเสียบอุจาดเจ้า เช่นเชื้อจัณฑาล
           แม่หวังฝากชีพเจ้า เผาผี
กลับดับชีพิตรหนี แม่ได้
พลางร่ำคร่ำครวญทวี ถวิลโศก ศัลย์นา
สองหัดถฃ้อนทรวงให้ แทบปิ้มปราณมลาย
          ฝ่ายพระอนุชนารถเจ้า อโยทธยา
เสด็จออกยังพลับพลา มาตยพร้อม
เหล่ากระบี่อสุรา เรียบแน่น เฝ้าแฮ
ต่างศิโรตม์นอบน้อม บาทเจ้าจอมพล
           ตรัสสั่งพิเภกผู้ เรืองไสย สาตรแฮ
เราจักตรีพลไกร หยุหเต้า
ปราบจักรวรรดิใน ภพมลิ วันฮา
ให้ราบเสี้ยนศึกเค้า ฃาดสิ้นศัตรู
           จงหาศุภฤกษชั้น ไชยจร ทัพเอย
โดยสาตรพยากรณ อย่าพลั้ง
พิเภกรับสุนทร พจนาดถ์ ท่านนา
อยิบกระดานชนวนตั้ง เลขเค้าคูณหาร
           บวกลบขับไล่แล้ว ลงตรา เสศเอย
ดวงพระเคราะห์ชันษา สอบซ้ำ
มงคลประเสริฐมหา ฤกษจัตุ รงค์นอ
ลีลาศพลไกรล้ำ เลื่องมล้างเศอกไกษย
           ขุนราพนบน้องพระ หริรักษ
ทูลว่าไตรทิวาจัก โชดแผ้ว
จันทร์จรทับลักษณหัก หาญเศิก สดวกแฮ
เสาร์ภักมังกรแกล้ว กลั่นดว้ยเกษตรภูม
           ยายีมีตระบะเหี้ยม ฮึกชาญ ณรงค์เอย
เดชดุจเดชพระกาล กาจห้าว
เชิญเสด็จยกพลหาญ หักดัษ กรแฮ
พระจักไชยชำนะท้าว แทตยหล้ามลิวัน
           พระทรงสดับถ้อย โหรทูล
ตรัสสั่งสุครีพยูร ยาตรผ้าย
จัดกระบี่กับอสูร สมทบ ทัพนา
เตรียมเสร็จสองกษัตริย์ย้าย ยกพื้นพหลหาญ

จบห้องที่ ๑๓๖

  เนื้อความกล่าวถึงสุครีพและพิเภกรับคำสั่งให้พลวานรคุมทศพิณและวรณีสูรกลับกรุงลงกา เมื่อถึงจึงจองจำขื่อคาพาตระเวนไปทั่วเมืองและให้นักโทษทั้งสองร้องประจานโทษตัวเองมิให้ใครเอาเยี่ยงอย่าง เมื่อผ่านปราสาทนางมณโฑ ทศพิณรำพันถึงมารดาว่าตนหมดโอกาสที่จะแทนคุณ ครั้นประจานทั่วเมืองแล้ว เพชฌฆาตก็นำนักโทษทั้งสองไปประหารและเสียบหัวประจาน ฝ่ายนางมณโฑเมื่อทราบว่าโอรสสิ้นชีพแล้ว ก็คร่ำครวญว่าเป็นเพราะทศพิณเชื่อพี่เลี้ยง ไม่ฟังคำห้ามของมารดาจึงต้องเสียชีวิต ฝ่ายพระพรตและพระสัตรุดให้พิเภกหาฤกษ์แล้วยกทัพไปปราบท้าวมลิวัน

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ผดุงลูกแต่เยาว์มา”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เราจักกรีพลไกร”